วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตอน....พ่อแม่ไม่สั่งสอน


ไม่ได้เขียนบล็อกนานมากกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว เพราะ 2ปีมานี้ ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างจากการเรียน และทำงานเลย จริงๆ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่เพิร์ธ อยากเขียนหลายอย่างมาก เพราะมีเรื่องราวมากมาย ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ไม่มากก็น้อย แต่ขอแซงเรื่องอื่นๆ ด้วยเรื่องนี้ก่อนแล้วกัน

วันนี้เราได้คุยกับเพื่อนสนิทคนนึง แล้วเราสองคนก็วนมาเข้าเรื่องที่ว่า ทำไมตอนเราเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ถึงใช้คำว่า พ่อแม่ไม่สั่งสอน เวลาที่เราทำสิ่งไม่ถูกต้อง หรือสมควร ซึ่งพอเราโตมาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เราได้ประสพพบเจอ ผู้คนมากมาย หลากหลาย ต่างเพศ ต่างอายุ ต่างสัญชาติ ต่างวัฒนธรรม จนทำให้เรากลับมาคิดถึงประโยคนี้ ว่าคนคนนึง ที่โตขึ้นมา มีนิสัย ความคิด บุคลิค ที่เป็นอยู่นี้ มันเกี่ยวกับการสั่งสอนของพ่อแม่ไหม

เราเลยนึกถึงเรื่องง่ายๆ ที่อยากจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่เราพบเจอมาตลอด 2ปีที่อยู่ที่นี่ และคิดว่ามันขึ้นอยู่กับการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่อย่างชัดเจน เราทำงานคาเฟ่ร้านนึง เป็นพนักงานทั่วไป ทั้งรับออเดอร์จากลูกค้า และเสิร์ฟอาหาร พ่อแม่ที่มีลูกเล็กมาด้วย แทบทุกคน จะบอกให้ลูกพูดขอบคุณทุกครั้ง ที่พนักงานเสิร์ฟ นำอาหารหรือเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ พอเราวางอาหารลงบนโต๊ะ ถ้าเป็นของผู้ใหญ่ ทุกคนจะพูด Thank you แต่ถ้าเป็นของเด็กน้อย ไม่เกิน 5ขวบ พ่อแม่จะหันไปหาลูก และถามว่า What do you say to the lady? แล้วเด็กน้อยก็จะหันมาหาเราและพูดว่า Thank you

เคยมีเด็กโตขึ้นมาหน่อย น่าจะสัก 7ขวบ ตัวสูงกว่าเค้าเตอร์นิดเดียว เดินมาสั่งอาหารที่เค้าเตอร์ เด็กชายส่งเสียงมา Excuse me, can I have milkshake please? แว้บแรกที่เรารู้สึกทำไมเด็กคนนี้มารยาทดีจัง เรารับเงินมา ยื่นเงินทอน พูดขอบคุณ แล้วเด็กชายก็ขอบคุณเรา คือมันดีนะ ชัดเจนว่าเด็กน้อยได้รับการอบรมจากพ่อแม่ อย่างน้อยๆ ก็เรื่องมารยาททางสังคม ซึ่งมันสำคัญมากในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

อีกเหตุการณ์หนึ่ง คือพ่อแม่ต่อแถวรอสั่งอาหาร ลูกน้อยเริ่มเกะกะ วิ่งมาเอื้อมมือหยิบของที่เค้าเตอร์ แม่รีบตามมาทันที คว้ามือลูก และบอกว่า No! Stop it! What did I tell you before about do not touch things? ลูกน้อยก้มหน้าเดินตามมารอที่เดิม เราแอบตกใจ แต่ก็ชัดเจนว่าพ่อแม่มีวิธีจัดการกับเด็กในที่สาธารณะ ซึ่งเคยบอกเคยสอนมาตลอดอยู่แล้ว ลูกถึงนิ่งไป และทำตาม

เรื่องการต่อคิวนี่ไม่ต้องพูดถึง จะเด็กหรือ จะแก่ เค้าก็ต่อคิวกันทั้งนั้น ถ้าไม่มีคิว แต่มีคนยืนอยู่ใกล้ๆ เค้าเตอร์ คนที่เดินเข้ามาใหม่ ก็จะสะกิดถามคนที่ยืนอยู่ว่า คุณรอคิวอยู่หรือเปล่า น้อยมาก ที่จะมีคนเดินเข้ามาแบบไม่สนใจใคร เว้นแต่ถ้าเป็นคนพิการ เข้ามาเองด้วย wheelchair หรือคนท้องแก่ บางครั้งถ้าร้านไม่ยุ่งมาก คิวไม่ยาวเท่าไหร่ แล้วลูกค้าคนอื่นๆ ที่ต่อคิวเห็น ก็จะให้คิวคนพิการ และคนท้องแก่ก่อน

ตามความเข้าใจของเรา เราว่านี่แหละคือหนึ่งในการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ เอาแค่เรื่องพื้นฐาน ที่ใครทำอะไรให้เรา ไม่ว่าจะโดยหน้าที่ หรือความเต็มใจของคนคนนั้นเอง เราทุกคนควรมีความรู้สึกขอบคุณ ให้คนคนนั้น เรื่องเล็กน้อยนี้เอง ที่ทำให้คนมีความสุขในทุกๆ วัน ทุกวันนี้ เราขอบคุณคนขับรถบัสทุกวันก่อนลงจากป้าย คนขับก็ตอบกลับด้วยถ้อยคำสุภาพ แถมรอยยิ้ม  :)

เราว่าเราเข้าใจแล้ว ว่าทำไม ผู้ใหญ่ถึงมักจะใช้คำว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน สถาบันครอบครัว เป็นสถาบันแรกที่มีส่วนในการปลูกฝังเด็กอย่างมาก ให้โตมามีนิสัย และมารยาทที่ดี ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม เพราะเรื่องมารยาท หรือนิสัยของความเกรงใจ หรือการมีความรู้สึกขอบคุณผู้อื่น มันสอนกันตอนโตมาเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ได้ จะให้สอนกันยังไง..... เคยคิดนะ แต่มันทำไม่ได้ ก็พ่อแม่เค้าไม่ได้สอนมา เราเป็นใครจะไปสอนเค้า... เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะคุณตำรวจ! 5555 จบค่ะ :)