วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

2 ปีในบราซิล


กำลังจะครบ 2ปีที่เรามาอยู่บราซิล แล้วหรอเนี่ย.. เวลามันช่างผ่านไปไวจริงๆ :)

จำได้ตอนมาถึงใหม่ๆ พูดกับใครก็ไม่รู้เรื่อง เริ่มตั้งแต่จำตัวเลข และการถามราคา แต่เมื่อถามไป ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเวลาเค้าตอบกลับมา เราไม่เข้าใจเลย นึกแล้วก็ขำดี :) ผ่านมาจะครบ 2ปี ก็สื่อสาร พูดคุย ในชีวิตประจำวันรู้เรื่อง ไปไหนมาไหน ด้วยตัวเองได้ แถมเวลามีคนมาถามทาง หรือถามเรื่องเบอร์รถประจำทาง เรายังช่วยบอกเค้าได้ด้วย 

คิดเสมอว่าตัวเองพูดไม่เก่ง เพราะคิดว่ายังฝึกฝน และตั้งใจไม่พอ แต่พอถึงสถานการณ์จริง ที่เราต้องใช้ เรากลับใช้ได้ อย่างไม่เขินอาย มีคิดนานบ้าง นึกไม่ออกบ้าง แต่คนที่นี่ ก็ตั้งใจ และพยายามเข้าใจเรา ไม่รู้นะ เราอยู่ของเราได้ มีความสุขดี อาจจะเป็นเพราะ เลือกจะมองส่วนดีๆ ของที่นี่ มากกว่าส่วนที่ไม่ดี นั่นเอง :)

การมาอยู่ในต่างที่ต่างแดน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งสิ่งแวดล้อมใหม่ วัฒนธรรมใหม่ มุมมองใหม่ๆ จะบอกว่าทำให้เราโต และเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ก็คงใช่ จะบอกว่าทำให้มุมมอง ทัศนคติในการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ก็คงใช่ อีกเช่นกัน

เราได้พบ ได้เจอ ผู้คนมากมาย ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ทำให้คิดได้ว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ถ้าคนมันจะได้เจอ ได้รู้จักกัน ก็คงจะหนีกันไม่พ้น จะเรียกได้ว่ามี "กรรม" ต่อกันก็เป็นได้ แต่จะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว ก็แล้วแต่จะมองกันไป 

บางคนผ่านมา ได้รู้จัก ได้ชอบพอ ได้ช่วยเหลือ แล้วก็จากไป แบบทั้งมีเหตุผล และไม่มีเหตุผล เมื่อก่อนเคยคิดว่า ทำไม เค้าต้องเป็นแบบนี้ ทำไมเค้าต้องทำอย่างนั้น ทำไม ทำไม เต็มหัวไปหมด แต่ในเมื่อตัวเราไม่สามารถหาคำตอบ หรือไปตอบแทนใครได้ ก็หันมาคิดว่า จะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อแต่ละคน มีชีวิตของตัวเอง ที่ไม่จำเป็นต้องไปเชื่อมโยง ยึดติดกับคนอื่น จะเรา หรือเค้า ไม่ว่าจะคิด จะทำอะไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ของแต่ละคน 

ที่พูดมาทั้งหมดก็คือ อยากจะบอกว่า ในการมาอยู่ต่างบ้าน ต่างเมือง และการรู้จักมิตรที่ดี เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเราเสมอ แล้วแต่ว่าแต่ละคน จะมอง จะคิดอย่างไร โดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนคิดบวก เพราะมันทำให้เรามีความสุข และสามารถจัดการกับเรื่องราวต่างๆ ได้ สิ่งที่อยากบอกอีกอย่างหนึ่งคือ ในการอยู่ต่างที่ ต่างถิ่น กัลยาณมิตร สำคัญที่สุด เราโชคดีแล้ว ที่มีคู่ครอง เป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่สุด ส่วนกัลยาณมิตรคนอื่นๆ ที่ได้รู้จักพบเจอ เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ก็คือสิ่งที่โชคดี เป็นขั้นที่สอง รองจากคู่ครอง 

ดีใจที่ได้มีคู่ครองที่ดี หนักนิด เบาหน่อย ก็พูดคุย และให้อภัยซึ่งกันและกัน เวลามีสุข ก็สุขด้วยกัน รวมถึงในยามทุกข์ใจ ก็ปลอบใจ ให้กำลังใจกัน ถึงขนาดร้องไห้ไปด้วยกันก็ทำมาแล้ว อีกทั้ง ยังช่วยเหลือ สนับสนุน และดูแลเราเป็นอย่างดี แค่นี้แหละที่ต้องการ ในยามไกลบ้าน ต่างเมือง มีแค่คนเดียวที่เข้าใจเราก็ดีที่่สุดแล้ว

ดีใจที่ได้รู้จัก และเป็นเพื่อนกับทุกคนที่บราซิล ไม่ว่าจะมีเรื่องดีบ้าง ไม่ดีบ้างคละเคล้ากันไป แต่ก็ขอบคุณทุกๆ คนที่ได้รู้จักที่นี่ เพราะทุกคนที่ได้รู้จัก ได้สอนอะไรหลายอย่างให้กับตัวเรา ไม่มาก ก็น้อย ทำให้เรามีทัศนคติที่เปลี่ยนไป และมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณค่ะ :)




วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Update

ฮัลโหลบล็อคของฉัน หายไปนานมาก เพราะไม่ค่อยมีอะไรสนุกๆ มาเล่าให้ฟังเลย ทุกวันก็เหมือนเดิม คือตื่นนอน เตรียมอาหารเช้า คุยกับที่บ้าน อาบน้ำ ทำความสะอาดบ้าน ไปฟิตเนส และ ออกไปพบปะ พี่ๆ คนไทย บ้าง.. แต่บางทีก็บ่อย ฮะๆๆ

เผลอแป็บเดียว นี่ก็เดินตุลาคมแล้ว นั่งนับวันรอ เมื่อไหร่จะถึงเดือนมีนาคม น้อออ จะได้กลับบ้านสักที ตั้งใจจะอยู่ให้ถึงสงกรานต์ เพราะเป็นเทศกาลที่อยากอยู่กับครอบครัว ไปเจอคุณตาคุณยาย รดน้ำดำหัว และทานข้าวด้วยกัน

อยากไปเที่ยวทั้งภาคตะวันออก เหนือ และใต้ คิดถึงเมืองไทย สถานที่สวยๆ อาหารอร่อยๆ เพื่อนดีๆ ที่แม้มีอยู่น้อย ก็ดีกว่าไม่มีเลย ฮะๆๆ อยากซื้อของสวยๆ คุณภาพดีๆ ราคาย่อมเยา สงสัยต้องนั่งทำลิส รายการที่อยากกิน อยากซื้อไว้เนิ่นๆ กลับไปจะได้จัดให้ครบถ้วน :)

มาอยู่เซาเปาโล จะได้ 2ปีแล้ว ไม่รู้สึกว่าไม่ชอบนะ มีเบื่อบ้าง บางครั้ง แต่ไม่ทุกข์ ถามว่าชอบมั๊ย ก็ชอบนะ ไปไหนมาไหนเองได้ พูดคุย สื่อสารรู้เรื่อง ไม่เคยโดนทำร้าย หรือวิ่งราวใดๆ (มีแค่เกือบๆ ฮะๆๆ) คือมีความรู้สึกว่า อยู่ที่ไหน ก็มีอันตรายทั้งนั้น ถ้าผิดที่ ผิดเวลา

เราอยู่ย่านธุรกิจ ติดอันดับแหล่งน่าอยู่อาศัย ด้วยมั๊ง เลยมีความสุขสบายดี เดินไปทางไหน ก็มีแต่คนทำงาน แต่งตัวสวยๆ ถือกระเป๋าแพงๆ เออ... ก็ไม่เห็นจะอันตรายอย่างที่ใครเค้าว่า ส่วนเรื่องน่าเบื่อ ก็อาจจะมีแค่ ไม่ค่อยมีอะไรทำ นอกจาก ช็อปปิ้ง กินข้าวนอกบ้าน และไปสวนสาธารณะ แต่เราก็ไม่เบื่อนะ อยู่บ้านใช้อินเตอร์เน็ท ก็ปาไปครึ่งวันแล้ว ฮะๆๆ

ข้าวของที่นี่มันแพงเหลือหลาย เราก็ไม่ได้ซื้ออะไรเท่าไหร่ ส่วนมากก็ซื้อแต่ของที่จำเป็น มาอยู่ที่นี่ แทบจะนับชิ้นได้ ว่าซื้ออะไรไปบ้าง (ไม่รวมของฝากที่บ้านนะ เพราะซื้อบ่อยมาก ฮะๆๆ) พอไม่ได้ทำงาน หาเงินเองแล้ว ก็เกิดความเกรงใจสามี ในการใช้เงินสุรุ่ยสุุร่าย เพราะตอนนี้ เรามี 2คนนะ ต้องอยู่ด้วยกัน คิดด้วยกัน พอแต่งงานมีครอบครัวแล้ว รู้เลยว่า คู่สามีภรรยา ควรมีความเกรงใจกันและกันนะ แล้วจะอยู่กันได้แบบมีความสุข :)

โอเค.. พอละ ไม่มีอะไรสนุกๆ ขำๆ เลยวันนี้ นั่งนับวันรอกลับเมืองไทย กันต่อไป..... 

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คนมีงานทำ

ช่วงเดือน 2เดือนที่ผ่านมานี้ มีโอกาสได้ทำงาน เลยได้หายเบื่อไปบ้าง และยังรู้สึกกระตือรือร้น ไม่ขี้เกียจเหมือนที่เคยรู้สึกเป็นประจำ ตามประสาคนเป็นแม่บ้าน ที่มีงานบ้านให้ทำไม่มาก :D

งานแรก เป็นงานเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา งานใหญ่ งานช้าง ของประเทศบราซิล ที่มีโอกาสจัดประชุม Rio+20 เกี่ยวกับ "การพัฒนาที่ยั่งยืน" ที่ได้ทำงานนี้ ก็เพราะเพื่อนร่วมงานเก่าที่ UNEP ติดต่อมา เนื่องจากเค้าไม่สามารถบินมางานนี้ได้ ด้วยปัญหาเรื่อง ระยะเวลา และแน่นนอน งบประมาณ

เราเลยต้องบินไปทำงานนี้ที่ Rio อยุ่ 4วัน โชคดีมาก ที่คุณพ่อสามี ผู้ใจดี ขับรถไปส่งทุกวัน เนื่องจากใกล้บ้าน เราเลยไม่ต้องลำบากเท่าไหร่ โชคดีชั้นที่2 คือคุณแม่สามี ต้องเข้าร่วมงานประชุมนี้ด้วย เนื่องจากคุณแม่ ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม เราเลยมีเพื่อนไปด้วย เป็นบางวัน

แล้วงานก็ผ่านไป พร้อมกับบรรยากาศ อันวุ่นวาย สับสน ทั้งเรื่องป้าย ที่เป็นภาษาโปรตุกีส และ เรื่องระบบทำบัตร อันสับสน ฮะๆๆ ทำให้เราได้เห็นเจ้าหน้าที่ UN หรือที่เราเรียก สหประชาชาติ นั่งตามพื้นกันมากมาย โอว... นี่แค่งานประชุมที่มีเข้าประชุมเบาๆ หลักหมื่น... แล้วบอลโลกในอีก 2ปีข้างหน้า จะเป็นยังไงเนี่ย ^^"

อีกงานนึงที่กำลังทำอยู่ คือ คุณครูสอนภาษาไทย :D ตอนแรกก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ คลาสแรกประหม่ามาก เพราะต้องสอนนักเรียนออซซี่ ที่เป็นพนักงานกงสุล และกำลังจะถูกย้ายไปประจำที่ประเทศไทย พอได้สอนจริงๆ ก็ สนุกดีนะ แต่ก็คงสอนถึงต้นเดือนหน้า เพราะเค้าต้องย้ายไปเร็ววๆ นี้ อย่างน้อยๆ ก็าอนให้พูดได้ว่า "สวัสดีครับ สบายดีไหม" "ขอโทษครับ ผมไม่เข้าใจ" ฮะๆๆ

ช่วงนี้ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ขี้เกียจเท่าไหร่ และใช้เวลาอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น กี่โมงไปทำงาน กี่โมงทำงานบ้าน กี่โมงทำอาหาร กี่โมงไปจ่ายตลาด กี่โมงเล่นคอมฯ กี่โมงดูละคร (อันนี้ไม่มีพลาด) และเมื่ออยู่ไม่ค่อยว่างแล้ว ก็ทำให้เวลาเดินเร็วขึ้น อยากกลับไทยเร็วๆ จัง อีก 7เดือนเอง!! นั่งร้องเพลงรอต่อไป :))

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

วางแผน

การมาอยู่ต่างบ้าน ต่างเมือง ก็ดีไปอีกอย่าง ชีวิตมีระบบ ระเบียบ และมีแผนการ มากขึ้น เนื่องจากไม่ใช่บ้านเมืองเรา จะไปไหน มาไหน ทำอะไร ก็ต้องคิดหน้า คิดหลัง คำนวณเวลา การเดินทาง และงบประมาณ ต่างๆ มากมาย (เอ.. หรือคนอื่นเค้าทำกันนานแล้วหว่า เราอยู่บ้าน อยู่เมืองไทย ไม่เคยทำ ^^" ยกเว้นทำงาน) ที่จั่วหัว เรื่องใหม่นี้ว่า "วางแผน" ก็เพราะว่าต้นปี เป็นเวลาที่ดี ในการคิด ตระเตรียม วางแผน ต่างๆ เพื่อนที่เราจะได้ทำในปีนี้

ปีนี้ อยากได้ อยากทำอะไรบ้าง ก็ คิดออกมาได้ ดังนี้ 1.อยากกลับบ้าน 2.อยากได้วีซ่า 3.อยากทำอาหารเก่งๆ 4.อยากพูดโปรตุกีสได้คล่องขึ้น 5.อยากรักษาศีล5ให้ได้ >> อันที่จริงก็มีไม่มาก แต่ทำยากทุกอัน - -"

ข้อแรก อยากกลับบ้าน จุดประสงค์ แบ่งออกเป็น สองข้อใหญ่ๆ คือ 1.กลับไปเยี่ยมครอบครัว เพื่อนฝูง และทำเอกสารเรื่อง (เปลี่ยนแปลงสถานภาพให้ถูกต้อง) 2.กลับไปจัดงานเลี้ยงแต่งงาน เพราะยังไม่ได้จัดงานที่ไทย ที่บอกว่าทำยาก เพราะ ปัจจัยแรก คือเงิน ถามว่ามีเงินมั๊ย ก็มี แต่ต้องคิดให้ดีว่า จะเดินทางยังไง ไม่ให้เสียเที่ยว ไปๆ มาๆ 2คน ก็แสนนึงแล้ว.. จะกลายเป็นแสนสาหัส ถ้าเดินทางหลายรอบ ^^" เลยได้ความคิดว่า จะรวบยอด จากจะกลับไปหาที่บ้านสิ้นปีนี้ เลยคิดว่าจัดงานเลี้ยงแต่งงานเดือนมกราคม ปีหน้า ก็น่าจะโอเค ไปทีเดียวไปเลย

ข้อสอง อันนี้ ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอไปเรื่อยๆ ถามว่ามีปัญหาอะไรมั๊ย ก็ไม่มีนะ แค่นอยๆ เวลาเห็นเพื่อนๆ คนอื่น เค้าได้กันแล้ว :P แต่อย่างว่า ต่างเมือง ก็อาจจะต่างกัน แถมระบบราชการเค้าก็ไม่ค่อยมาตรฐานเท่าไหร่ ก็คงต้องใช้ความอดทน รอกันต่อไป ไม่มีปัญหา แค่อยากบ่นเฉยๆ ฮะๆๆ :D

ข้อสาม ข้อนี้... คงต้องใช้เวลาฝึกฝน และเรียนรู้กันไป จากพี่ๆ และเพื่อนๆ คนไทย แล้วผลัดกันชิม สักวันนึง คงจะเก่งเอง ปัญหาที่มีคือ เราอยู่กัน 2คน จะทำอะไรเยอะแยะมากมาย ก็ไม่ได้ ต้องคิดกันสักหน่อยว่า ทำอะไร เก็บได้นานมั๊ย ไม่งั้น กินกัน 2คน คงอ้วนกลมกันใหญ่ อยากทำอะไรอีกตั้งเยอะ แต่บางทีก็ขี้เกียจ ^^" -ขนาดไม่ค่อยมีอะไรจะทำ ก็ยังขี้เกียจเนอะ :D

ข้อสี่ อันนี้ถือว่ายากมากกกกกกกกกกก ดูได้ จากการอยู่มา 1ปี เรียนมา เกือบ 70ชม. แล้ว แต่ก็ยังจำฟอร์ม ประโยคอดีต กับอนาคตไม่แม่น ได้แค่ปัจจุบัน และได้คำศัพท์ซะส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องผันคำกริยา เป็นรูปอื่น.. ลืมไปเลย ทำไม่ได้ค่าา >.< เพื่อนๆ อาจจะสงสัย ก็ทำไมกาเบรียลไม่ช่วยติว ขอบอกเลยว่า คุณสามีชอบพูดไทย ฮะๆๆ แต่เวลาทำการบ้าน ก็ช่วยนะ เราเองก็หัดพูดกับเค้า ผิดตลอด แต่เค้าก็ช่วยแก้ให้ หวังว่าปีนี้จะพูดดีขึ้น :)

ข้อห้า อืม.. ที่จริงก็พยายามทำมาตลอดนะ ทำดีในที่นี้คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ตามศีลห้า นี่แหละ ทำไม่ง่ายนะ ลองมาคิดดู ทุกวัน เราไม่ได้อยู่คนเดียว แม้แต่สามี บางที พูดคุย ถกเถียงกัน ก็เกิดความคิดไม่ดีบ้างหละ คำพูดไม่ดีบ้างหละ นั่น ผิดศีลข้อ4 อีกแล้ว ฮะๆๆ แต่ก็สวดมนต์ทุกคืนก่อนนอน เริ่มมาเมื่อเดือนธันวาคม ถือว่าเป็น New Year resolutions แรก ที่ดี :)

เอาหละ วางแผนแล้ว ก็ต้องทำตามแผนให้ได้ ปีใหม่นี้ เดือนแรกเพิ่งเริ่ม ยังมีอีก 11 เดือนให้วางแผน คิด ทำ อีกเยอะ แล้วมารอดูกัน ถือคติ คิดดี ทำดี พูดดี ก็น่าจะช่วยให้แผนเราไปได้สวย ในขั้นต้น :)